เริ่มด้วยการสมัครเข้าทำงานที่แรก แล้วก็ย้ายมาบริษัทที่สอง และตอนนี้ยังคงอยู่ที่บริษัทที่สองยังไม่ไปไหน
การกลับมาเขียนครั้งนี้เป็นอันว่าเขียนเก็บไว้กันลืม หลังจากการอ่านหนังสือ อ่านบทความประดับความรู้ จริงๆก็ไม่ได้ดูดีมีความรู้อะไร แค่เป็นประเด็นที่สนใจ ก็เอามาเก็บไว้ พูดแบบนี้ถูกกว่า
เริ่มด้วยสิ่งแรก คิดจะเรียนต่อโทแล้วจ้า (ตามสมัยนิยม)
ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี จะเปลี่ยนแนว หรือจะตามแนวทางเดิม ชีวิตเรามีอยู่ 3 อย่าง อยู่หน้าคอม กิน และเที่ยว
ความคิดแรกเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียนต่ออะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องซะ
ความคิดที่สองเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำอยู่จริงหรอ ลองไปเรียนอะไรอย่างอื่นมั้ย
ความคิดที่สามเรียนให้มันครึ่งๆกลางๆ เป็นเป็ดเหมือนตอนเรียนตรีดีมั้ย ก็รู้อะไรเยอะดี ปูพื้นไว้เยอะเชียว ต่อยอดด้านไหนดีหละ
และ อีกความคิดเล็กๆ เรียนเพื่อไปใช้งานกับความฝัน
ทั้งหมดนี้ถูกกลั่นกรองมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ว่าจะเรียนสาขาอะไร
MIT ไม่มีปัญญาเข้ามหาลัยนี้หรอก มันคือชื่อสาขา management information technology
MIS อันนี้คงรู้จักกัน management information system คนเรียนกันเยอะแยะ
สองอันนี้ต่างกันแค่คำว่า technology กับ system สิ่งที่ focus ต่างกัน
Computing ตรงๆเลย
Computer Science เป็น ศ.ดร. เลยทีเดียว
IT เฉยๆ ก็มีด้วย หรือจะเป็น IT for สาขาต่างๆอีก
e-commerce เจาะไปเลยก็มี
Information Science ก็แปลก
แล้วก็มีแว๊บนึงมา ไปเรียนทำอาหาร ไม่ก็ nutrition รู้แล้วรู้รอด สนใจเรื่องกินนัก
แต่แล้วก็มาสะดุดหนึ่งคำ IT Entrepreneurship คืออะไรว้า
ก็ยังไม่หมดแค่นี้ ในใจก็คิดว่าทุกวันนี้ทุกคนไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ แก่ ชรา ต่างก็มุ่งเข้าหา technology กันหมด มันมีอิทธิพลเหนือธรรมชาติอีกหรอ
สำหรับความคิดส่วนตัวแล้ว ไม่มีสิ่งไหนฝืนธรรมชาติได้ พื้นดินเทคอนกรีตทับ ต้นหญ้าเล็กๆยังงอกทะลุขึ้นมาได้ หรือเราจะไปเรียนอะไรเพื่อรู้ถึงธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ และเข้าถึงแก่น ไปปรัชญาเลยว่างั้น ก็เกินไป
คำตอบนั้นมันใกล้ตัวเรานิดเดียว สิ่งที่ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติมากที่สุด คือ พุทธศาสนา นี่เอง แล้วเราจะเอา พุทธศาสนามาโยงเข้ากับ technology ได้ยังไงกัน ทุกวันนี้ยังคิดไม่ออก...